การเจาะน้ำคร่ำ แม้จะมีความแม่นยำสูง แต่ก็มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน ที่นำไปสู่การสูญเสียการตั้งครรภ์ได้ จึงเป็นสาเหตุให้คุณหมอไม่ได้แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนเข้ารับการตรวจดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีคุณแม่บางท่านที่ควรระมัดระวังการเจาะน้ำคร่ำเป็นพิเศษ ซึ่งจะมีคุณแม่กลุ่มใดบ้าง เรามาหาคำตอบกันค่ะ

ในขั้นตอนการเจาะน้ำคร่ำนั้น แพทย์จะใช้เข็มแทงผ่านทางผนังหน้าท้องและผนังมดลูก เข้าไปยังถุงน้ำคร่ำเพื่อดูดน้ำคร่ำนำมาตรวจโครโมโซม หากมารดามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี ไวรัสตับอักเสบชนิดซี ซิฟิลิส หรือ HIV และต้องเจาะน้ำคร่ำผ่านรก หรือเจาะใกล้รก จะเพิ่มโอกาสการปนเปื้อนของเลือดมารดาสู่ทารกในครรภ์ ส่งผลให้ทารกในครรภ์ติดเชื้อดังกล่าวด้วย

ด้วยเหตุนี้ คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือผู้ที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ ควรมีการตรวจสุขภาพของตัวเอง รวมถึงการตรวจการติดเชื้อ โดยหากพบว่า มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี ไวรัสตับอักเสบชนิดซี ซิฟิลิส หรือ HIV ควรแจ้งแพทย์ผู้ดูแลครรภ์เพื่อหาแนวทางในการตรวจความผิดปกติโครโมโซมทารกในครรภ์ รวมถึงวางแผนการคลอดที่เหมาะสม 

โดยการตรวจคัดกรอง NIPT ที่ใช้ตัวอย่างเลือดของคุณแม่มาวิเคราะห์หาความผิดปกติโครมโซม เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยงต่อการแท้งหรือการติดเชื้อเช่นเดียวกับการเจาะน้ำคร่ำ หากคุณแม่ได้รับผลตรวจออกมาเป็นความเสี่ยงต่ำ ก็ไม่จำเป็นต้องมีการเจาะน้ำคร่ำเพื่อยืนยันผลตรวจ ซึ่งช่วยลดความกังวลใจให้กับคุณแม่ได้ค่ะ

ที่มาข้อมูล: Practice Bulletin No. 162: Prenatal Diagnostic Testing for Genetic Disorders. Obstetrics & Gynecology 127(5):p e108-e122, May 2016.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
LINE ID: @nggthailand
โทร: 061-391-8999
Website: https://www.nggthailand.com

#NGGThailand #GenomeForHealthierLife #ตรวจดาวน์ซินโดรม #ตรวจดาวน์ #ตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม #คัดกรองดาวน์ซินโดรม #ดาวน์ซินโดรม #เจาะเลือดตรวจดาวน์ซินโดรม #เจาะเลือดคัดกรองดาวน์ #ตรวจเลือดดาวน์ซินโดรม #ตรวจเลือดคัดกรองดาวน์ซินโดรม #ตรวจดาวน์ซินโดรมที่ไหนดี #ตรวจคัดกรองทารกในครรภ์ #ตรวจNIPT #NIPT #Qualifi #QualifiPremium24 #NGS #NextGenerationSequencing #ตรวจNGS