คุณแม่หลายท่านอาจไม่ทราบว่าการรับบริจาคเลือด สามารถส่งผลต่อการตรวจ NIPT ได้ วันนี้เราเลยนำเอา 2 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับผลตรวจของคุณแม่ที่เคยรับเลือดจากผู้บริจาคมาให้กับคุณแม่ที่กำลังจะเข้ารับการตรวจ NIPT มาให้ทราบกันค่ะ
• อาจได้รับผลลวง (False Result)
หากผู้บริจาคเลือดมีโรคประจำตัวบางประเภท อาจทำให้ผลตรวจที่ได้รายงานออกมาเป็นผลบวกลวง ซึ่งเป็นการรายงานผลความผิดปกติของผู้บริจาค แต่ไม่ได้เป็นการรายงานของลูกในครรภ์นั่นเองค่ะ หรือหากผู้บริจาคเป็นเพศชาย ก็อาจทำให้ผลตรวจเพศทารกคลาดเคลื่อน เนื่องจากตรวจเจอโครโมโซม Y ของผู้บริจาคชายได้ค่ะ
• อาจมีโอกาสได้รับผลตรวจลักษณะที่ไม่สามารถรายงานผลได้ (No-call result)
เนื่องจาก cfDNA หรือสารพันธุกรรมที่ได้จากตัวอย่างเลือดของคุณแม่ถูกรบกวน อาจทำให้ไม่สามารถรายงานผลออกมาได้ ซึ่งอาจทำให้ต้องมีการเก็บตัวอย่างเลือดอีกครั้งเพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์
แล้วหากรับเลือดจากผู้บริจาคมาและกำลังจะตรวจ NIPT ควรทำอย่างไร?
คุณแม่ควรเว้นระยะหลังจากวันที่เข้ารับบริจาคเลือดจนถึงวันที่เข้ารับการตรวจ NIPT อย่างน้อย 1 เดือน และแจ้งประวัติการรับเลือดให้กับคุณหมอผู้ดูแลครรภ์และผู้ให้บริการตรวจ NIPT ได้ทราบค่ะ
ซึ่งการแจ้งประวัติการรับเลือดให้กับคุณหมอและผู้ให้บริการตรวจ NIPT ได้ทราบนี้จะทำให้ทราบแนวทางป้องกันการได้รับผลตรวจที่อาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง นอกจากนี้คุณหมออาจมีแนวทางในการตรวจคัดกรองหาความผิดปกติโครโมโซมให้กับทารกในครรภ์ได้ด้วยวิธีที่เหมาะสมกับคุณแม่แต่ละบุคคลนั่นเองค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
LINE ID: @nggthailand
โทร: 061-391-8999
Website: https://www.nggthailand.com
#NGGThailand #GenomeForHealthierLife #ตรวจดาวน์ซินโดรม #ตรวจดาวน์ #ตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม #คัดกรองดาวน์ซินโดรม #ดาวน์ซินโดรม #เจาะเลือดตรวจดาวน์ซินโดรม #เจาะเลือดคัดกรองดาวน์ #ตรวจเลือดดาวน์ซินโดรม #ตรวจเลือดคัดกรองดาวน์ซินโดรม #ตรวจดาวน์ซินโดรมที่ไหนดี #ตรวจคัดกรองทารกในครรภ์ #ตรวจNIPT #NIPT #Qualifi #QualifiPremium24 #NGS #NextGenerationSequencing #ตรวจNGS