Verifi prenatal test การตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม และความผิดปกติของโครโมโซมคู่อื่นๆของทารกในครรภ์จากเลือดคุณแม่ (Non-Invasive Prenatal Testing, NIPT)
สะดวก แม่นยำ รวดเร็ว และปลอดภัย
Verifi prenatal test คือ การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ โดยใช้เลือดคุณแม่เพียง 7-10 mL การตรวจนี้ทำได้อย่างสะดวกและง่ายดาย ตรวจได้ตั้งแต่ในช่วง 10 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ โดยคุณแม่สามารถลดความเสี่ยงของการเจาะน้ำคร่ำหรือการเจาะตัวอย่างรก
Verifi prenatal test สามารถตรวจได้ทั้งการตั้งครรภ์เดี่ยวและครรภ์แฝด โดยคุณแม่จะได้รับผล การตรวจภายใน 7-10 วัน (หลังจากได้รับเลือดคุณแม่)
วิธีการตรวจของ Verifi prenatal test เป็นอย่างไร
การตรวจ Verifi prenatal test เป็นการนำเลือดคุณแม่มาตรวจวิเคราะห์สารพันธุกรรมดีเอ็นเอของทารกในครรภ์ที่เรียกว่า Cell-free DNA ที่ปล่อยสู่กระแสเลือดแม่ โดยใช้เทคโนโลยีการหาลำดับเบสของดีเอ็นเอที่เรียกว่า “Massively Parallel Sequencing” ซึ่งวิเคราะห์ทุกส่วนของดีเอ็นเอได้อย่างถี่ถ้วนและแม่นยำ ร่วมกับการใช้เทคนิคที่เรียกว่า SAFeR™ ในการวิเคราะห์โครโมโซมอย่างละเอียด เพื่อตรวจหาภาวะการขาด (Monosomy) หรือเกิน (Trisomy) ของโครโมโซมทารก
Verifi prenatal test สามารถตรวจคัดกรองความผิดอะไรได้บ้าง
ในคนปกติที่มีสุขภาพแข็งแรงจะมีโครโมโซม 23 คู่ โดยโครโมโซม 22 คู่แรกเป็นโครโมโซมร่างกาย ส่วนโครโมโซมคู่ที่ 23 เป็นโครโมโซมเพศ โดยผู้หญิงจะมีโครโมโซม X จำนวน 2 แท่ง ส่วนเพศชายมีโครโมโซม X และโครโมโซม Y อย่างละ 1 แท่ง
Verifi prenatal test ตรวจความผิดปกติของโครโมโซม ที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการและความพิการทางร่างกายที่พบได้บ่อยในทารก ประกอบด้วย Down syndrome (Trisomy 21) Edward syndrome (Trisomy 18) และ Patau syndrome (Trisomy 13)
Verifi prenatal test ยังสามารถตรวจความผิดปกติด้านการขาด (Monosomy) หรือเกิน (Trisomy) ของโครโมโซมเพศทารกในครรภ์ได้ เช่น Turner syndrome (45, X), Triple X syndrome (47, XXX), Klinefelter syndrome (47, XXY) และ Jacobs syndrome (47, XYY) เป็นต้น
ความแม่นยำในการตรวจคัดกรองความผิดปกติ
Chromosome |
Sensitivity |
Specificity |
Accuracy |
Trisomy 21 |
>99.9% |
99.8% |
– |
Trisomy 18 |
97.4% |
99.6% |
– |
Trisomy 13 |
87.5% |
>99.9% |
– |
Monosomy X |
95% |
99% |
– |
XX |
97.6% |
99.2% |
98.4% |
XY |
99.1% |
98.9% |
99% |
XXX/XXY/XYY |
Limited data of these more rare aneuploidies preclude performance calculations |
จากการเก็บข้อมูลผู้เข้ารับการตรวจมากกว่า 85,000 ราย พบว่า
Verifi prenatal test มีความแม่นยำและความน่าเชื่อถือสูงในการตรวจพบความผิดปกติของโครโมโซม
จำนวนผู้เข้ารับการตรวจ (ราย) |
86,658 |
อัตราการไม่ได้รับผลการตรวจ (%) |
0.1% |
อัตราการตรวจพบความผิดปกติ (%) |
2.2% |
อัตราผลบวกผิดพลาด (False positive rate) (%) |
0.12% |
อัตราผลลบผิดพลาด (False negative rate) (%) |
0.02% |
Verifi Plus prenatal Test คืออะไร
Verifi Plus Prenatal Test เป็นทางเลือกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์เดี่ยว ที่ต้องการทราบข้อมูลความผิดปกติของโครโมโซมที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วย All chromosomes testing และ Microdeletions testing
Verifi Plus all chromosomes testing
ความผิดปกติของโครโมโซมร่างกายคู่อื่นๆ ที่นอกเหนือจากโครโมโซมคู่ที่ 13 18 และ 21 นั้น ส่วนใหญ่ทำให้เกิดการแท้งหรือการเสียชีวิตของทารกในครรภ์ รวมถึงความพิการทางร่างกายและพัฒนาการด้านสติปัญญาของทารก
All chromosomes testing จึงเป็นทางเลือกการตรวจคัดกรองภาวะ Trisomy ของทุกโครโมโซม สำหรับคุณแม่ที่ต้องการทราบข้อมูลทางพันธุกรรมที่ครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผลการอัลตราซาวด์พบความผิดปกติ
ความแม่นยำในการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมคู่อื่น ๆ
|
Sensitivity |
Specificity |
All autosomal chromosomes |
98.7% |
99.95% |
Verifi Plus microdeletions testing
Microdeletions เป็นความผิดปกติที่เกิดจากการขาดหายของชิ้นส่วนโครโมโซมขนาดเล็ก ซึ่งสามารถเกิดได้กับคุณแม่ทุกช่วงอายุ ทุกเชื้อชาติ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเองโดยไม่มีประวัติการเกิดในครอบครัวมาก่อน
Microdeletions testing เป็นทางเลือกในการตรวจคัดกรอง Microdeletion syndromes ที่พบได้ในทารก และส่งผลต่อความพิการทางร่างกายและพัฒนาการด้านสติปัญญาของทารก ซึ่งประกอบด้วย DiGeorge syndrome (22q11.2 deletion syndrome), 1p36 deletion syndrome, Angelman syndrome/Prader-Willi syndrome (15q11.2 microdeletion), Cri du chat syndrome (5p- syndrome) และ Wolf-Hirschhorn syndrome (4p- syndrome)
จากการเก็บข้อมูลผู้เข้ารับการตรวจมากกว่า 115,000 ราย พบว่า Verifi Plus microdeletions testing มีความแม่นยำในการตรวจพบความผิดปกติ (Positive predictive value, PPV) ของ Microdeletion syndromes ในระดับสูง โดยมีค่า PPV ในการตรวจ 22q11 deletion ประมาณ 90.0% และ 10.5%-66.7% สำหรับ Microdeletion syndromes อื่นๆ
คุณแม่มีทางเลือกการตรวจพันธุกรรมของทารกในครรภ์อะไรบ้าง
ในปัจจุบัน มีการตรวจพันธุกรรมของทารกในครรภ์หลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งรูปแบบการตรวจคัดกรอง และการตรวจวินิจฉัย การตรวจคัดกรองแบบเดิม หรือที่เรียกว่า Serum screening นั้น เป็นการประเมินอัตราความเสี่ยงของทารกที่จะมีความผิดปกติ ซึ่งการตรวจบางชนิดต้องอาศัยเทคนิคที่ยุ่งยาก ใช้เวลานาน ต้องพบผู้เชี่ยวชาญหลายครั้งตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ และเมื่อเปรียบเทียบผลการตรวจระหว่าง NIPT และ Serum screening แล้ว พบว่า Serum screening มีอัตราการตรวจพบ Down syndrome ที่ต่ำกว่า NIPT และผลที่ได้จากการตรวจมีการคาดเคลื่อนสูง ส่วนการตรวจวินิจฉัย โดยการตรวจน้ำคร่ำหรือตรวจตัวอย่างรก สามารถตรวจพบ Down syndrome ได้อย่างแม่นยำ แต่ในการทำหัตถการนั้นจะทำให้เกิดความเสี่ยงกับแม่และลูกได้ค่อนข้างสูง ความเสี่ยงนี้อาจถึงขั้นสูญเสียบุตรได้เลยทีเดียว
NIPT สามารถตรวจพบ Down syndrome ได้มากกว่า 99% ในขณะที่การตรวจคัดกรองแบบเดิม ชนิด Combined screening สามารถตรวจพบ Down syndrome ได้เพียง 85%
NIPT มีอัตราผลบวกผิดพลาด (False positive rate) สำหรับการตรวจ Down syndrome เพียง 1 ใน 1,000 เท่านั้น ในขณะที่การตรวจคัดกรองแบบ Combined screening มีอัตราผลบวกผิดพลาดสูงถึง 1 ใน 20
Verifi prenatal test เหมาะกับคุณแม่ท่านใดบ้าง
Verifi prenatal test เป็นทางเลือกใหม่สำหรับคุณแม่ที่ต้องการทราบถึงสุขภาพของทารกในครรภ์ โดยเป็นการตรวจที่ปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการสูญเสียทารกในครรภ์ การตรวจนี้เป็นการคัดกรองโครโมโซมที่เหมาะกับคุณแม่ทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ที่มีความเสี่ยงในกรณีดังต่อไปนี้
- คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีในครรภ์เดี่ยว และ 32 ปีในครรภ์แฝด
- ผลการตรวจคัดกรอง Serum screening พบความผิดปกติหรือมีความเสี่ยงสูง
- ผลอัลตราซาวด์พบความผิดปกติหรือมีความเสี่ยง
- มีประวัติการมีบุตรหรือสมาชิกในครอบครัวที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม
ขั้นตอนการตรวจ Verifi prenatal test เป็นอย่างไร
- เมื่ออายุครรภ์ 10 สัปดาห์ขึ้นไป คุณแม่เข้ารับการให้คำปรึกษากับคุณหมอผู้ดูแลเพื่อขอรับการตรวจ Verifi
- ทำการเจาะเลือดปริมาณ 7-10 ซีซี
- เลือดของคุณแม่จะถูกส่งไปตรวจวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการ illumina, USA
- ผลการตรวจจะส่งไปให้คุณหมอผู้ดูแลภายใน 7-10 วัน
การรายงานผลของ Verifi prenatal test เป็นอย่างไร
ผลของ Verifi prenatal test จะแจ้งให้คุณแม่ทราบถึงความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21, 18, 13 ความผิดปกติของโครโมโซมเพศ หรือความผิดปกติของโครโมโซมคู่อื่นๆ (กรณีเลือกตรวจ) ในกรณีที่ผลเป็นบวก (Positive) หมายถึงทารกมีความเสี่ยงสูงที่จะมีความผิดปกติ แพทย์ผู้ดูแลจะอธิบายผลอย่างละเอียด และให้คำปรึกษาในลำดับต่อไป การรายงานผลที่คุณแม่จะได้รับมี 2 รูปแบบดังนี้
- Negative : No Aneuploidy Detected หมายถึง ทารกมีความเสี่ยงต่ำ หรือมีโอกาสน้อยมากที่ทารกจะคลอดออกมาแล้วพบความผิดปกติของโครโมโซมที่ทำการตรวจวิเคราะห์
- Positive : Aneuploidy Detected หมายถึง ทารกมีความเสี่ยงสูงที่จะมีความผิดปกติของโครโมโซมที่ตรวจพบ โดยคุณหมอจะแนะนำให้มีการเจาะน้ำคร่ำเพื่อเป็นการยืนยันผลการตรวจ
หากผลตรวจคัดกรองออกมาปกติ ลูกของเราจะปกติแน่นอนหรือไม่
Verifi prenatal test เป็นการตรวจคัดกรองที่มีความแม่นยำสูง แต่อย่างไรก็ดี ไม่มีการตรวจวิธีใดที่สามารถยืนยันผลได้ 100% การตรวจ Verifi prenatal test นั้น สามารถคัดกรองความผิดปกติชนิด Trisomy หรือ Monosomy ของโครโมโซมที่ทำการตรวจวิเคราะห์ นั่นหมายความว่า ผล Negative: No Aneuploidy Detected ไม่ได้รับรองความผิดปกติของโครโมโซมชนิดอื่นๆ รวมทั้งความพิการทางร่างกาย เช่น ปากแหว่ง เพดานโหว่ หัวใจรั่ว ภาวะหลอดประสาทไม่ปิด (Open neural tube defects) และ ภาวะออทิสติก เป็นต้น
ดังนั้นคุณแม่ควรได้รับคำแนะนำโดยปรึกษากับแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญควบคู่ไปด้วยตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์
ทำไมควรเลือก Verifi prenatal test
Verifi prenatal test เป็นคำตอบสำหรับคุณแม่ที่ต้องการผลการตรวจที่แม่นยำ รวดเร็ว และปลอดภัย เพื่อให้ทราบถึงสุขภาพของทารกในครรภ์ โดยที่คุณแม่ไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงของการทำหัตถการ (Invasive prenatal testing)
Verifi prenatal testมีจุดเด่นที่สำคัญหลายประการ คือ
- สะดวกต่อคุณแม่ทุกท่าน ทั้งครรภ์เดี่ยวและครรภ์แฝด ไม่มีข้อจำกัดในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์โดยเทคโนโลยี
- ช่วยการเจริญพันธุ์ รวมทั้งไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ เชื้อชาติ และน้ำหนักของคุณแม่
- ใช้เลือดคุณแม่ปริมาณน้อยเพียง 7-10 mL
- ตรวจได้รวดเร็ว ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์
- ผลการตรวจมีความแม่นยำสูง (>99%)
- อัตราการไม่ได้รับผลการตรวจต่ำเพียง 0.1% เท่านั้น คุณแม่มีโอกาสเจาะเลือดซ้ำน้อยมาก
- รายงานผลรวดเร็ว ภายใน 7-10 วัน หลังจากรับตัวอย่างเลือดคุณแม่
- มีผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์นานาชาติรองรับหลายฉบับ
- ห้องปฏิบัติการที่ทำการตรวจวิเคราะห์ได้รับมาตรฐาน CAP-accredited และ Clinical Laboratory Improvement Amendments (CLIA)